ประวัติของข้าพเจ้า, Kagayaki Miyazaki9. เรยอนตกต่ำ

ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1950 ถึง 1960 เป็นระยะเปิดฉากเศรษฐกิจรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกว่าเป็นการมาถึงของ “เศรษฐกิจเฟื่องฟูกลางทศวรรษ 1950” ตั้งแต่ปี 1956-1957 จุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจคือการเพิ่มการลงทุนในเครื่องจักรอุปกรณ์ภาคเอกชน ในวงการใยสังเคราะห์ของเราก็ลงทุนในเครื่องจักรอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องโดยเน้นเรยอนเป็นหลัก คำขวัญติดปากที่ว่า “นี่ไม่ใช่ยุคหลังสงครามอีกต่อไปแล้ว” ก็เป็นที่นิยมในช่วงนี้
แต่ความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจอยู่ได้ไม่นานเนื่องจากรัฐบาลเปลี่ยนไปใช้นโยบายจำกัดอันเข้มงวดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุงดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ ผลกระทบต่อวงการใยสังเคราะห์ของเรานั้นรุนแรงมากโดยเฉพาะการที่เพิ่งดำเนินการเพิ่มการลงทุนยิ่งใหญ่สำหรับเรยอนทำให้แต่ละบริษัทตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และแล้วในเดือนสิงหาคม 1957 เหตุการณ์ได้เดินหน้าจนถึงขั้นที่กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมประกาศให้ลดการประกอบการโดยเฉลี่ย 20%

แม้กระนั้นสภาพตลาดเรยอนก็ไม่กระเตื้องขึ้น กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้เพิ่มอัตราลดการประกอบการเป็น 50% ตั้งแต่เดือนมกราคม 1958 เรียกได้ว่าเป็นความตกต่ำของเรยอนที่สับสนปั่นป่วนจริง ๆ ด้วยเหตุนี้บริษัทใยสังเคราะห์แต่ละบริษัทจึงเริ่มเปิดสมัครใจให้ลาออกซึ่งรวมเป็นจำนวนถึง 8 พันกว่าคนทั่วทั้งวงการ

  • ผู้บริหารโรงงานกล่าวลาในครั้งที่หยุดการประกอบการชั่วคราว

แน่นอนว่า Asahi Kasei ก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเรยอนตกต่ำอย่างเต็มที่ ทำให้มีพนักงานเกินจำนวนปริมาณงานอย่างล้นหลาม แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบด้านแรงงาน ข้าพเจ้าพยายามที่จะเลี่ยงการเปิดสมัครใจให้ลาออกเพราะข้าพเจ้าไม่อาจฝืนใจที่จะปล่อยให้พนักงานที่สู้มาด้วยกันในเหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ Nobeoka และยกระดับความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างแรงงานและผู้ว่าจ้างมาจนถึงวันนี้ต้องออกจากงาน
แต่ถึงกระนั้น สภาพการณ์การบริหารก็ไม่ง่ายขนาดที่จะเก็บพนักงานส่วนเกินไว้ได้ตลอดไป ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคิดที่จะสั่งหยุดงานชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กล่าวคือ เป็นวิธีที่ให้พนักงานส่วนเกินพักงานชั่วคราวโดยระหว่างนั้นให้พวกเขารับเงินประกันการว่างงานและให้กลับเข้าทำงานที่บริษัทตามลำดับเมื่อบริษัทก้าวข้ามผ่านวิกฤติได้แล้ว
ข้าพเจ้าเริ่มเจรจากับฝ่ายสหภาพในทันทีซึ่งพวกเขาเข้าใจความลำบากใจของบริษัทและตกลงตามข้อเสนอโดยมีเงื่อนไขว่าจะได้กลับมาทำงานตำแหน่งเดิม ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้สั่งพักงานกลุ่มแรก 175 คน ในเดือนกันยายน 1957 และกลุ่มที่สอง 186 คนในเดือนตุลาคม

แต่ทว่า กระทรวงแรงงานออกมาบอกว่า “ผู้พักงานซึ่งพักงานในระยะเวลาที่กำหนดและจะกลับเข้าทำงานเดิมไม่มีสิทธิได้รับเงินประกันการว่างงาน” นี่เป็นปัญหาที่ทำให้ตกที่นั่งลำบากแต่ก็ไม่อาจยกเลิกการพักงานได้ เมื่อคิดพิจารณาหลายตลบแล้ว ข้าพเจ้าได้ร้องต่อสหภาพว่าขอให้ลาออกจากงานเพื่อแสดงสภาพโดยจะให้กลับเข้าทำงานเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งอย่างแน่นอน
หากไม่ทำเช่นนั้นสิทธิในการรับเงินประกันการว่างงานจะถูกยกเลิก แต่ถึงกระนั้นหากทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะว่าจ้างอีกครั้งก็จะมีผลเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมีวิธีเดียวคือการให้เชื่อใจบริษัทและออกจากงานโดยสัญญาปากเปล่าเท่านั้น
ผู้พักงานชั่วคราวคงจะไม่สบายใจแน่ ๆ แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่จะกอบกู้สถานการณ์อันยากลำบากของบริษัทโดยไม่ต้องตัดแรงงาน ข้าพเจ้าเองก็ลำบากใจเช่นกันแต่ได้แต่ขอร้องให้สหภาพยอมรับข้อตกลงนี้
ข้าพเจ้าคิดว่า “อาจจะถูกปฏิเสธ” แต่เมื่อสหภาพปรึกษาหารือกันหลายครั้งในที่สุดก็ตกลงตามข้อเสนอนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจที่คิดว่า “พวกเขาไว้วางใจบริษัทถึงขนาดนั้น” และสาบานต่อตนเองว่าจะต้องทำตามสัญญาให้ได้เพื่อไม่ให้เป็นการหักหลังต่อความเชื่อใจของสมาชิกสหภาพ

เดือนมกราคม 1958 พนักงาน 1,142 คนออกจากงานโดยมีเพียงสัญญาปากเปล่าเท่านั้น ข้าพเจ้าหารือกับสหภาพและตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่จากแผนกงานและกรรมการสหภาพไปเยือนผู้พักงานเดือนละครั้งเพราะต้องการให้ผู้พักงานคลายความกังวลจากการฟังรายงานสภาพการณ์ล่าสุดของบริษัทและจากการปลอบขวัญ แน่นอนว่านอกจากการไปให้ปลอบขวัญให้กำลังใจในเกาะคิวชูแล้วยังไปเยือนทั่วญี่ปุ่นตะวันตกอีกด้วย
นอกจากนี้ การคัดเลือกผู้พักงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก หากคัดผู้มีผลงานดีเด่นเอาไว้แล้วสั่งให้คนอื่นพักงานจะทำให้ผู้พักงานหวั่นไหว ดังนั้น แม้บริษัทจะต้องการคัดคนเก่ง ๆ เอาไว้แต่ก็ตัดสินใจให้พวกเขาออกจากงานเช่นเดียวกัน ผู้พักงานชั่วคราวกลับเข้าทำงานอีกครั้งจนครบทุกคนหลังจากเดือนกรกฎาคม 1958
ด้วยเหตุนี้ นโยบายหลักว่าด้วยความร่วมมือระหว่างแรงงานและผู้ว่าจ้างและความไว้วางใจซึ่งกันและกันที่กำเนิดขึ้นหลังจากความขัดแย้งครั้งใหญ่ใน Nobeoka จึงได้ตั้งมั่นโดยสมบูรณ์

  • ลาพักชั่วคราวเพื่อช่วยธุรกิจครอบครัว
    Nobeoka 1957