ประวัติของข้าพเจ้า, Kagayaki Miyazaki13. การสร้างเสาหลักในการบริหาร

ต่อเนื่องจากธุรกิจไนลอน เราได้สร้างฝ่ายกิจการวัสดุก่อสร้างในเดือนเมษายน 1963 ตามด้วยฝ่ายกิจการยางสังเคราะห์ในเดือนถัดมาคือเดือนพฤษภาคม และนำเข้าสู่ตลาดการแข่งขัน ทั้งสองอย่างเป็นสาขาที่มีการเติบโตสูงแต่การเริ่มธุรกิจใหม่ย่อมต้องมีความยากลำบากตามมาด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง เรามีเรื่องที่ตัดสินใจยากหลายเรื่องเนื่องจากไม่สามารถนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วของ Asahi Kasei มาประยุกต์ใช้ได้ พนักงานสำรวจของเราพยายามทุกวิถีทางที่จะหาบริษัทที่จะขอนำเข้าเทคโนโลยี และในที่สุดเราก็ได้ตัดสินใจนำเข้าคอนกรีตมวลเบา “SILIKALTSIIT™” จากสหภาพโซเวียต เราเริ่มการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 1963 แต่ได้ล้มเหลวโดยสมบูรณ์
SILIKALTSIIT มีน้ำหนักเบากว่าคอนกรีตและมีความแน่น ข้อดีของมันอยู่ที่สามารถใช้ทรายธรรมดาเป็นวัตถุดิบได้แต่ความแตกต่างของสภาพการณ์ระหว่างประเทศเป็นอุปสรรค กล่าวคือ สหภาพโซเวียตสร้างวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ทนทานโดยไม่คำนึงถึงต้นทุน
แม้คุณภาพจะดีเท่าไรแต่ก็ไม่เหมาะกับที่อยู่อาศัยสำหรับประเทศญี่ปุ่นซึ่งจำเป็นต้องมีความละเอียดอ่อนควบคู่ไปด้วย ทีมเทคนิคได้ทำการวิจัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ไม่ว่าจะพยายามเช่นไรก็ไม่อาจเลี่ยงต้นทุนสูงได้ทำให้ไม่คุ้มทุน เป็นเหตุให้มูลค่ารวมการขาดทุนขึ้นสูงถึงเกือบ 3 พันล้านเยน
และแล้วข้าพเจ้าก็ต้องตัดสินใจเลิกกิจการ SILIKALTSIIT ในที่สุด แม้จะเป็นสาขาที่ไม่คุ้นชินแต่ก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ด้วยตนเองเลยว่าการสำรวจข้อมูลล่วงหน้าสำคัญเพียงใด
แต่ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าจะตัดใจจากสาขาวัสดุก่อสร้าง ในไม่ช้าข้าพเจ้าได้รับการติดต่อจากพนักงานที่ประจำอยู่ในเยอรมนีตะวันตกกล่าวว่าคอนกรีตมวลเบาของบริษัท Hebel Gaston เยอรมนีตะวันตกมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ครั้งนี้เราได้สำรวจข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนทำสัญญากับบริษัทดังกล่าวซึ่งในครั้งนี้นาย Yoshihisa Kuroda (อดีตรองประธานบริษัท) ก็ได้เป็นผู้ดำเนินการหลัก จนถึงบัดนี้ข้าพเจ้ายังจำใบหน้าของนาย Kuroda ซึ่งปกติเป็นคนใจแข็งที่กล่าวทั้งน้ำตาในครั้งที่ทำสัญญาว่า “คราวนี้เราจะเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้”

“Hebel” ซึ่งเราเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1973 นั้นมีน้ำหนักเบาเป็น 1 ใน 4 ของคอนกรีตและยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนและทนไฟ ด้วยเหตุนี้จึงใช้ในขอบเขตที่กว้างทั้งอาคาร โรงงาน และที่พักอาศัยทั่วไป และได้กลายเป็นเสาหลักของเราในไม่ช้า
หลังจากนั้นเราได้ใช้เทคโนโลยีที่สั่งสมมาในสาขาวัสดุก่อสร้างเข้าสู่สาขาที่อยู่อาศัยและเริ่มจำหน่ายด้วยชื่อ “HEBEL HAUS” ตั้งแต่เดือนกันยายน 1972 ณ ปัจจุบันยอดขายในสาขาที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างของเราสูงถึง 1 แสน 3 หมื่นล้านเยน และได้เติบโตเป็นแหล่งทำรายได้ที่สูงที่สุด

ในทางกลับกัน สำหรับสาขายางสังเคราะห์ เราได้นำเข้าเทคโนโลยีจากบริษัท Firestone และเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1964 ในขณะนั้นยางสังเคราะห์ญี่ปุ่นที่กำเนิดขึ้นโดยการสั่งการของรัฐและบริษัท Zeon ซึ่งเป็นบริษัทวีรบุรุษในเครือ Furukawa Group ครองตลาดอยู่ ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยาก
แต่ทั้งสองบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตยางเอสบีอาร์ (Styrene-butadiene rubber) ซึ่งกล่าวกันว่าเสื่อมเร็วและกระจายความร้อนได้น้อยกว่ายางธรรมชาติ ในทางกลับกัน ยางบีอาร์ (Polybutadiene) ที่บริษัท Firestone คิดค้นขึ้นมีจุดแข็งต่าง ๆ มากมาย เช่น ทนทานต่อการเสียดสี เกิดความร้อนยาก เสื่อมสภาพน้อย และประหยัด
แต่ถึงกระนั้น การบุกเบิกผู้ใช้งานเป็นไปอย่างยากลำบาก สิ่งที่เราคิดหาคำตอบเพื่อพิสูจน์ความยอดเยี่ยมอย่างเหนือชั้นของผลิตภัณฑ์ในระยะเวลาอันสั้นคือการขับรถยนต์ที่ใช้ยางบีอาร์วิ่งระหว่าง Tokyo-Osaka โดยไม่หยุดพัก เมื่อถึง Tokyo เราจะเปลี่ยนตัวคนขับแล้วให้ขับกลับทันที เราจัดการให้รถวิ่งให้ได้มากที่สุด เก็บรวบรวมข้อมูลแล้วนำไปเสนอต่อผู้ผลิตยางรถยนต์
สำหรับยางรองเท้า เราให้นักเรียนประถมศึกษาและคนขายข้าวกล่องตามสถานีใส่รองเท้าของเราเนื่องจากเราคิดว่าเด็กประถมจะวิ่งเล่นข้างนอกทั้งวันและคนขายข้าวกล่องในสถานีจะแบกข้าวกล่องไปเดินขายทุกครั้งที่รถไฟมาถึงซึ่งจะช่วยให้เราเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ข้าพเจ้าเองก็ได้เดินทางไปพบผู้ใช้งานตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเช่นเดียวกัน อย่างเช่นครั้งที่ไปเยือนบริษัท Yokohama Rubber ข้าพเจ้าได้ซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวจำนวน 5 หมื่นหุ้นเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความจริงใจต่ออีกฝ่ายหนึ่งแล้วทำสัญญาขายยางสังเคราะห์กับบริษัทดังกล่าว ส่วนบริษัท Bridgestone ข้าพเจ้าได้ไปขอร้องถึงหลายต่อหลายครั้งต่อคุณ Shojiro Ishibashi ประธานบริษัทซึ่งขณะนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว คุณ Ishibashi ซึ่งเคยยากลำบากมาในอดีตได้ถามข้าพเจ้าว่า “บริษัทของคุณให้ประธานบริษัทมาเสนอขายเองเลยหรือครับ”
ความพยายามดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ความต้องการผลิตภัณฑ์ของเราได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากเข้าสู่ตอนกลางของทศวรรษที่ 1960 และแล้วเมื่อยางสังเคราะห์เข้าสู่เส้นทางธุรกิจที่เข้าที่เข้าทางทำให้เราประสบความสำเร็จใน “แผนกลยุทธ์ 3 ธุรกิจใหม่”

ทั้งนี้ไม่ว่าในงานใด ๆ ก็ตาม ผู้ที่ให้การสนับสนุนข้าพเจ้าในทางปฏิบัติคือผู้จัดการฝ่าย-แผนกและหัวหน้าทีมต่าง ๆ ที่อยู่แถวหน้าทุกคน แม้จะมีนักเทคนิคผู้มากความสามารถที่เสนอให้เริ่มธุรกิจไนลอนโดยเร็วแต่ไม่อาจทำได้สำเร็จแล้วต้องลาจากเราไป แต่เมื่อพัฒนาเป็นธุรกิจในภายหลังพวกเขาเองก็เป็นคนที่มาช่วยข้าพเจ้า ไม่ว่ากิจการใดก็ตามลำพังข้าพเจ้าคนเดียวมิสามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้

  • Hebel™ คอนกรีตมวลเบา (AAC)
  • ยางสังเคราะห์โพลีบูตาดีน